วิธีเลี้ยงกระต่าย มือใหม่ควรรู้

วิธีเลี้ยงกระต่าย มือใหม่ควรรู้

วิธีเลี้ยงกระต่าย มือใหม่ควรรู้ รูปลักษณ์หูยาวขนฟูนุ่มนิ่มที่ใคร ๆ ก็ต่างบอกว่าน่ารักนักหนา หากคุณอยากมีสมาชิกใหม่ในบ้านเป็นเจ้ากระต่ายน้อยแสนกล ควรวางแผนการเลี้ยงยังไงบ้าง วันนี้เรามีวิธี การเลี้ยงกระต่าย มาฝากค่ะ

น้อน ๆ Rabbit เจ้ากระต่ายตัวนุ่มขนฟูเป็นสัตว์ที่สวยงาม น่ารัก เลี้ยงง่าย และมีความเหมาะสมอย่างยิ่งในการนำมาเลี้ยงในบ้าน สามารถปรับตัวเข้ากับการดำรงชีวิตได้ แม้กระทั่งการอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ขนนุ่มนิ่มทั่วลำตัว ดวงตากลมแบ๊ว และมีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม สำหรับใครที่หลงใหลเสน่ห์เจ้ากระต่ายน้อย และอยากเลี้ยงไว้เป็นเพื่อคู่ใจสักตัว วันนี้ มีข้อมูลมาฝากมือใหม่หัดเลี้ยงกันค่ะ พร้อมที่จะให้พวกเค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในบ้านกันหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย

วิธีเลี้ยงกระต่าย มือใหม่ควรรู้

1.เตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงกระต่าย

• เลี้ยงในบ้าน
สำหรับ คนที่เลี้ยง กระต่าย หากเพื่อน ๆ ที่คิดจะเลี้ยงเจ้ากระต่ายไว้ในบ้าน การเลือกกรงก็เป็นส่วนที่สำคัญมากเลยนะคะ เพราะว่ากรงที่เราเลือกนั้นต้องมีขนาดใหญ่กว่าตัวของเจ้ากระต่าย ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ยิ่งดี ส่วนพื้นของกรงควรเลือกกรงที่ดูแลง่าย ควรเลือกใช้วัสดุที่ทำจากลวด หรือสแตนเลส ไม่ควรเลือกวัสดุที่หุ้มด้วยพลาสติก เพราะเขาอาจจะกัดแทะวัสดุจนเป็นอันตรายได้นั่นเองค่ะ ห้ามเลี้ยงในตู้กระจกเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เขามีอากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ เสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ ในส่วนของถาดรองควรเป็นพลาสติกที่แข็ง เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด สำหรับเพื่อน ๆ ที่เลี้ยงกระต่ายไว้ในบ้านนั้น จะต้องทำความสะอาดกรง และถาดรองทุกวันด้วยนะคะ

• เลี้ยงนอกบ้าน
และสำหรับ คนที่ ต้องการ หรือ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการเลี้ยงเจ้ากระต่ายนอกบ้าน ควรเลือกกรงชนิดที่ออกแบบให้เหมาะสมกับบริเวณบ้าน ภูมิอากาศ หลังคาควรจะเป็นแบบเปิดปิดได้ กันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี และมีขนาดใหญ่ เพราะจะได้มีพื้นที่ให้กระต่ายวิ่งเล่นมากขึ้น ไม่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด ส่วนพื้นควรรองด้วยฟาง หรือหญ้าแห้งเพื่อไว้สำหรับให้เขาสามารถนอนได้ ที่สำคัญคือ ในช่วงฤดูหนาวให้ระวังการวางกรงไว้ในพื้นที่ที่มีลมโกรก เพราะอาจทำให้กระต่ายล้มป่วยได้ ฉะนั้นควรวางกรงให้ห่างจากจุดที่มีลมโกรกแรงสักนิด และมีหญ้าเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับกระต่ายด้วยนะคะ

2.การให้อาหารและน้ำ

• หญ้า อาหารเม็ด
อาหารสำหรับกระต่าย หรือ อาหารหลักของกระต่ายก็คือ หญ้า ซึ่งก็มีหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น หญ้าขน หญ้าทิมโมธี แพงโกล่า และหญ้าอัลฟาฟ่า ในกระต่ายที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน สามารถผสมอาหารเม็ดให้กินรวมกับหญ้าได้ แต่ควรให้ในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะจะทำให้กระต่ายอ้วน ไม่แข็งแรง ส่วนกระต่ายที่อายุ 7 เดือนขึ้นไป เพื่อน ๆ ควรเริ่มจำกัดการให้อาหารเม็ด ให้เสริมได้เป็นบางครั้งคราว และเลือกอาหารเม็ดชนิดที่มีโปรตีน กากใยสูง และไขมันไม่สูง

• น้ำ
สิ่งนี้ เป็นสิ่งที่ จำเป็นมาก สำหรับน้ำเป็นสิ่งจำเป็นมาก เราต้องมีน้ำสะอาดไว้ในกรงให้กระต่ายกินตลอดเวลา ควรจะใส่ขวดที่มีจุกน้ำแบบหลอดท่อแอร์ หรือแบบที่มีลูกปืน เพราะถ้าให้แบบอ่าง กระต่ายอาจจะนำปากลงไปกิน ทำให้จมูกเปียก เสี่ยงต่อการเป็นหวัดได้ และควรทำความสะอาดขวดน้ำบ้าง อย่าให้สกปรกจนเกินไปนะคะ

3.วิธีการอุ้มกระต่าย

ปกติแล้ว โดยทั่วไปแล้วเจ้ากระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่ตกใจง่ายมาก หากเพื่อน ๆ ต้องการที่จะอุ้มเจ้าหูยาวขนนุ่มมากอดแล้วล่ะก็… เราจะต้องทำให้เค้ารู้สึกผ่อนคลายโดยการลูบขนเค้าเบา ๆ จากนั้นเอามือสอดเข้าไปใต้ท้องแล้วดึงเข้ามาแนบลำตัว แต่ต้องระวังสักหน่อย อย่าให้เจ้ากระต่ายกระโดดลงมาจากตัก หรือพลัดหลุดมือนะคะ เพราะจะทำให้เจ้ากระต่ายได้บาดเจ็บได้ อ้อ..แล้วเราก็ไม่ควรจับกระต่ายโดยการหิ้วหูนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้เค้ารู้สึกเจ็บแล้ว ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้หูของเค้าตกอีกด้วย

4.การอาบน้ำกระต่าย

ปกติแล้วนะคะ กระต่ายจะไม่ชอบน้ำ แต่การทำความสะอาดเจ้าหูยาวขนฟู เพื่อน ๆ ควรใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดทำความสะอาดค่ะ นี่คือการทำความสะอาด สำหรับเจ้ากระต่ายน้อยที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือน แต่พอหลังจาก 3 เดือน ไปแล้ว ก็สามารถอาบน้ำได้ โดยการเตรียมน้ำใส่กะละมังไว้ บีบหู เพื่อไม่ให้น้ำเข้า จากนั้นเราก็ใช้น้ำรดตัวกระต่าย และใช้แชมพู ฟอกให้ทั่วตัว สามารถใช้แชมพูของน้องหมา หรือแชมพูเด็กก็ได้นะคะ แต่ห้ามใช้แชมพูสำหรับผู้ใหญ่ เพราะอาจทำให้ขนร่วงได้ เสร็จแล้วล้างน้ำให้สะอาด ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง หากเป็นพันธุ์ขนยาวก็ควรใช้ไดร์เป่า (ใช้ลมเย็น) และอย่าลืมหวีขนให้เค้าด้วยล่ะ

5.การตัดเล็บกระต่าย

กระต่าย ถ้าหากเล็บยาว ก็อาจทำให้คนเลี้ยง บาดเจ็บ ได้นะคะ การตัดเล็บกระต่ายนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญเช่นกันค่ะ ถ้าหากปล่อยให้เล็บของเค้ายาวเกินไป เวลาเขาวิ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ รวมทั้งยังเป็นแหล่งสะสม ของเชื้อโรคอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราควรมีกรรไกรไว้สำหรับตัดเล็บ ใช้ของคน หรือของน้องหมาก็ได้ค่ะ ควรตัดต่ำกว่า เส้นสีชมพูลงมาหน่อย เพราะหาก ตัดเข้าไปที่เส้นสีชมพู พอดิบพอดี ก็จะเป็นการตัดเข้าเนื้อ ของเขาได้ ซึ่งตรงจุดนั้น มีเส้นเลือดหล่อเลี้ยงอยู่ หากเราตัดไปโดน อาจจะทำให้เลือดไหล และทำให้ กระต่ายเจ็บ (เพราะงั้นควรต้องระวังกันสักหน่อยนะ)

อ่านเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม